วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557
ชีวิตชาวบ้านคลองหวะ-ข้อควรปฏิบัติ
ชีวิตชาวบ้านคลองหวะ-ข้อควรปฏิบัติ
ในกิจการงานมงคลต่าง ๆ ของชาวบ้าน
เช่น การดูที่ตั้งบ้านเรือน การลงเสาเอก
วันขึ้นบ้านใหม่ การสู่ขอลูกสาว การแต่งงาน งานบวช งานศพ
จะมีข้อห้ามทางพิธีกรรมต่าง ๆ
ที่แล้วแต่ชาวบ้านที่ได้เชื่อถือกันมา
ดังนั้นเวลามีงานพิธีกรรมต่าง ๆ
ก็มักจะเชิญหมอมาทำพิธีกรรม
สมัยนั้นจะมีหมอหลากหลายประเภท
เช่น หมอดูที่ตั้งบ้านเรือน หมอดูที่ขุดบ่อน้ำ
หมอตำแย หมอตั้งขันหมาก หมอยา เป็นต้น
การที่จะได้เป็นหมอในสมัยนั้น
จะเป็นการสืบทอดกันมาทางสายเลือด
เรียกว่า พ่อ ปู่ สืบทอดกันมาโดยตลอด
เป็นลูกหลานสายตรงหรือจากการแต่งงานแต่งการกัน
หรือจากการถ่ายทอดระหว่างครูกับลูกศิษย์
หรือเรียกว่า เรียนรู้จากผู้รู้
ไม่ใช่จากการอ่านตำราหรือหนังสือ
แล้วตั้งตนเป็นหมอแต่อย่างไร
เพราะความเชื่อถือและศรัทธาก็จะลดน้อยเสื่อมถอยลงไปมาก
เนื่องจากเชื่อว่า เคล็ดลับบางอย่าง
หรือข้อห้ามบางอย่างจะไม่มีการเขียนไว้ในหนังสือหรือตำรา
แต่จะมีการบอกต่อกันมาแบบปากต่อปาก
หรือรู้กันเฉพาะในวงวิชาชีพของกลุ่มตนเท่านั้น
ดังนั้นจึงมีธรรมเนียมประเพณี
หรือข้อควรปฏิบัติของชาวบ้านที่ว่า
เวลาไปร่วมงานร่วมการที่บ้านใครแล้ว
อย่าถือตนว่ามีอายุหรืออาวุโสกว่าผู้อื่น
แล้วเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการในงานในการของเจ้าของพิธี
เพราะบางครั้งเจ้าของได้กำหนดฤกษ์ยาม
หรือบุคคลที่จะต้องมาทำพิธีไว้เรียบร้อยแล้ว
เผลอ ๆ จะทำให้เขาเสียฤกษ์เสียยาม
หลักง่าย ๆ ก็คือ คำกลอนเดิมที่มักจะท่องกันว่า
วันที่เป็นมิตรกัน
อาทิตย์ เป็นมิตรกับครู (พฤหัสบดี)
จันทร์โฉมตรู พุธนงเยาว์
ศุกร์ปากหวาน อังคารรับเอา
ราหูกับเสาร์ เป็นมิตรแก่กัน
วันที่เป็นศัตรูกัน
อาทิตย์ ผิดใจกับอังคาร
พุธอันธพาล วิวาทกับราหู
ศุกร์กับเสาร์ นานเนาว์เป็นศัตรู
จันทร์กับครู เป็นคู่อริกัน
เป็นความเชื่อแต่โบราณนานนมว่า
คนที่วันต้องกันก็มักจะถูกคอกัน
หรือคบกันเป็นเพื่อนมิตรสหายกันได้ยืนนาน
ภาษาใต้เรียกว่า ถูกรัดดวงกัน
(รัดดวง = ริดสีดวงทวาร)
ถ้าผิดวันกันมักจะมีปัญหา
หรือผิดพ้องหมองใจกันง่าย
ดังนั้น การที่ไปร่วมงานพิธีต่าง ๆ
จึงไม่บังควรไปเจ้ากี้เจ้าการในพิธีกรรมต่าง ๆ
เพราะเจ้าของบ้านหรือหมอได้กำหนดตัวบุคคล
ที่จะให้ทำพิธีต่าง ๆ ไว้แล้ว เช่น
คนที่จะลงเสาเอก คนจูงมือเจ้าสาว
คนที่จุดไฟพิธีการต่าง ๆ หรือ
คนผ่ามะพร้าวให้เป็นสองซีก
เพื่อทำนายว่า คู่สมรสนี้จะร่ำรวยหรือปานกลาง
ถ้าหงายทั้งสองข้าง ก็รับเงินทั้งคู่
ถ้าคว่ำทั้งสองข้าง ก็เก็บเงินไม่อยู่ทั้งคู่
ถ้าหงายข้างหนึ่ง คว่ำข้างหนึ่ง ก็ฐานะปานกลาง พอกินพอใช้
ดังนั้นมักจะมีการกล่าวกันว่า
การเป็นเฒ่าควรจะอยู่เป็น
ไม่ใช่เฒ่าเพราะกินข้าว
ไม่ใช่เฒ่าเพราะอยู่นาน
ไม่ใช่เฒ่ากระโหลกกะลา (ไม่มีราคา)
แต่ควรเป็นเฒ่าสังคโลกลายคราม (จะได้มีราคา)
เขียนขึ้นจากความทรงจำร่วมกัน
ก่อนที่จะเลือนหายไปเหมือนหมอพิธีกรรมพื้นบ้านที่ผ่านมา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น