วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ชีวิตชาวบ้านคลองหวะ-เลี้ยงผึ้ง(ทวิบท)

ชีวิตชาวบ้านคลองหวะ-เลี้ยงผึ้ง(ทวิบท)

หลังจากศึกษาการทำกล่องเลี้ยงผึ้งแล้ว
จะมาถึงขั้นตอนที่สำคัญคือ เสน่ห์นางพญาผึ้ง
ซึ่งมีเกจิอาจารย์เมืองไทยนิยม
นำมาใช้เลียนแบบทำเป็นสีผึ้งปาก
ในการทำให้พูดจามีเสน่ห์ชวนหลงใหลหรือน่าเชื่อถือ
สำหรับใช้กับคนทั่วไปได้แต่ใช้กับผึ้งไม่ได้

เสน่ห์นางพญาผึ้งจะได้มาด้วยวิธีการคือ
ขี้ผึ้งที่เหลือจากการบีบน้ำผึ้งออกหมดแล้ว
หลังจากตัดส่วนของน้ำผึ้งจากรังผึ้ง
นำมาบีบให้น้ำผึ้งลงในภาชนะบรรจุ
แต่ก่อนบีบให้สังเกตดูว่ามีตัวอ่อนผึ้งอยู่หรือไม่
ให้ค่อย ๆ เขี่ยลงในภาชนะอีกลูกหนึ่งไปก่อน

เมื่อได้จำนวนพอสมควรแล้วนำไปต้มให้สุก
กินได้อร่อยได้รสชาติมากทีเดียว
ทั้งหวานทั้งหอมทั้งมันจากตัวอ่อนผึ้ง
กับน้ำผึ้งที่เจือจางอยู่ผสมเล็กน้อย
บางรายจะใส่เกลือให้มีรสแหลมคมขึ้น
มีบางรายนำไปทอดหรือผัดแล้วแต่ความชอบส่วนตัว
ตัวอ่อนผึ้งแทบจะหากินยากมาก
เพราะจำนวนน้อยส่วนหนึ่ง
กับคนเลี้ยงมักจะนิยมนำไปกินกันเอง
ไม่ค่อยอยากเผื่อแผ่ชาวบ้านร้านตลาด

เมื่อบีบน้ำผึ้งกับมือจนหมดแล้วในรอบแรก
ให้นำขี้ผึ้งไปวางท่ามกลางเปลวแดดที่ร้อนระอุอีกรอบหนึ่ง
วางบนกระชอนที่เป็นพวกไม้ไผ่สานยิ่งดี
ความเชื่อบางคนเล่าว่า
ถ้าวางบนโลหะหรือพลาสติคจะมีกลิ่นเล็กน้อย
เพราะความเป็นกรดเข้มข้นของน้ำผึ้ง
จะทำปฏิกิริยากับโลหะหรือพลาสติค
ความร้อนจะทำให้น้ำผึ้งไหลละลายออกมาอีกส่วนหนึ่ง
เรียกว่ารีดกันจดหยดสุดท้ายทีเดียว
น้ำผึ้งจะค่อย ๆ หยดลงมาใส่หม้อหรือภาชนะที่บรรจุน้ำผึ้ง

จากนั้นจะนำน้ำผึ้งรอบสองนี้
ไปผสมกับน้ำผึ้งรอบแรก
หรือนำไปใช้เลยในส่วนนี้
หรือขายเป็นน้ำผึ้งต่อไป
สมัยก่อนลุงลัภย์ขายให้พนักงานธนาคารชาติขวดละสองร้อยบาท
(ขนาดขวดแม่โขงกลมใหญ่ประมาณ 630 CC.)
เรียกว่ามีการจองกันล่วงหน้าคิวยาวเหยียดเลยทีเดียว
ส่วนใหญ่สาว ๆ จะนำไปพอกหน้าเป็นเครื่องสำอาง
มีบางส่วนที่ซื้อไปกินเป็นอาหารหรือยา

สำหรับอุตสาหกรรมผลิตน้ำผึ้ง
ที่เคยไปเที่ยวที่อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
(บ้านเกิดของนายกรัฐมนตรี สมชาย วงศ์สวัสดิ์)
คุยกับเกษตรกรที่เลี้ยงผึ้งรายหนึ่ง
จะบอกว่าเมื่อตัดรวบรวมรวงผึ้งจากเพื่อนสมาชิกได้มากแล้ว
บางครั้งจะมีการนำรังผึ้งจากแถวเชียงใหม่หรือภาคเหนือ
มาฝากเลี้ยงที่ภาคใต้ช่วงฤดูต้นยางพาราออกดอกผลิใบ
ซึ่งจะเป็นช่วงฤดูแล้งมากของทางภาคเหนือ
แล้วจะนำรวงผึ้งของภาคเหนือมาผสมกับรวงผึ้งของภาคใต้

นำเข้าเครื่องปั่นน้ำยางพาราแบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง
จะได้แต่น้ำผึ้งที่เข้มข้นมากกว่าแบบชาวบ้านทำ
ส่วนขี้ผึ้งและสิ่งสกปรก
จะถ่ายเททิ้งได้ง่ายกว่าการบีบหรือทำด้วยมือ
และทำให้ได้น้ำผึ้งรวดเร็วกว่าการใช้มือคนทำ
หรือการบีบน้ำผึ้งแล้วรอพระอาทิตย์ช่วยเผาผลาญไล่น้ำผึ้งอีกรอบ

เครื่อง Centrifuges หรือเครื่องปั่นแยกน้ำนมออกจากน้ำ



ภาพประกอบจากอินเตอร์แนท


อุตสาหกรรมอาหารเมืองนอกนิยมมาก
ในการปั่นน้ำผึ้ง ปั่นน้ำนม เพื่อทำเนย หรือน้ำผลไม้
แต่ที่บ้านเราโรงงานยางพารานิยมนำมาใช้
ปั่นน้ำยางพาราแบบน้ำยางสด
ให้เหลือแต่น้ำยางเข้มข้น
ใส่ถังบรรจุขายต่างประเทศต่อไป

ภาพประกอบจากอินเตอร์แนท
ปัจจุบันมีเหลายแบบทั้งของแท้ดั้งเดิมจากสวีเดน สหรัฐ
กับของไทยทำ ของก๊อปปี้จากจีนแดง มากมาย



เกษตรกรรายนี้บอกว่า 
แต่ละปีจะมีการทำข้อตกลงกับผู้ผลิตรายใหญ่ในประเทศไทย
ในการส่งมอบน้ำผึ้งให้ปีละจำนวนกี่ตัน
ทำให้ต้องมีการกระจายเกษตรกรจำนวนมากในการเลี้ยงผึ้ง
พร้อมกับพื้นที่ในการเลี้ยงผึ้งจำนวนมากเช่นกัน
ก่อนจะมารวบรวมผลผลิตส่งให้กับผู้ผลิตรายใหญ่
ผลดี คือ จะทำให้มีตลาดสินค้าเกษตรที่แน่นอน
และราคาต่อหน่วยค่อนข้างแน่นอน

แม้ว่าอาจจะเสียเปรียบในเรื่องราคาต่อลิตร
ในการขายให้กับพ่อค้าคนกลางเพียงรายเดียวหรือสองราย
แต่สำหรับชาวบ้าน/เกษตรกรเลี้ยงผึ้ง
กลับมีแนวคิดในทางกลับกันว่า
ดีกว่าไปรอขายทีละขวดสองขวดหรือไปฝากขาย
ให้กับชาวบ้านร้านตลาดหรือพ่อค้าคนกลาง
กว่าจะได้เงินแต่ละครั้งก็เสียเวลามากเช่นกัน
เผลอ ๆ ไม่คุ้มค่าคุ้มเวลาในการเดินทางไปค้าขาย
สู้นำเวลาที่จะต้องเสียไปกับการนี้
มาทำงานเลี้ยงผึ้งหรือทำงานอื่นที่หารายได้ดีกว่า
หรือแบบที่เรียกว่า  โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี
เรียกว่า ได้อย่าง ก็เสียอย่าง

เพลงประกอบ ได้อย่าง เสียอย่าง
ไว้ฟังเล่น ๆ ประกอบการอ่าน




ขี้ผึ้งจากผึ้งเลี้ยงที่ได้จากบ้านช้างกลาง
ถามลุงลัภย์ว่านำมาทำยาเสน่ห์นางพญาผึ้งได้หรือไม่
แกตอบว่าไม่สามารถนำมาใช้ทำเสน่ห์นางพญาผึ้งได้
ในการเรียกหรือเชิญชวนให้ผึ้งป่ามาทำรังได้ได้
เพราะสอบถามลุงลัภย์แล้วแกบอกว่าผิดกลิ่น
เพราะผึ้งเลี้ยงจะมีกลิ่นตัว/กลิ่นสาปอีกแบบหนึ่ง

ส่วนมากแล้วผึ้งเลี้ยง
ไม่ค่อยดุเหมือนผึ้งป่าหรือผึ้งตามธรรมชาติ
น่าจะมาจากพันธุกรรม
และการเลี้ยงดูที่ใกล้ชิดกับคนมายาวนาน

(จริง ๆ แล้วอยากจะขอออกนอกเรื่องไปจากการเลี้ยงผึ้ง
อาจจะยาวสักหน่อยไม่เกี่ยวกับการเลี้ยงผึ้ง
แต่เป็นเรื่องที่รวบรวมมาจากประสบการณ์
และการบอกเล่าข่าวคราวจากเพื่อน ๆ หลายวงการ
ร่างไปเขียนไปเห็นว่ายาวมาก
นึกได้ว่าเดี๋ยวเรื่องราวจะไม่ต่อเนื่อง
ขอเขียนเป็นความเรียงอีกเรื่องชื่อ มุมมืดของบรรดามนุษย์เงินเดือน)

เรื่องผึ้งเลี้ยงมีนิสัยไม่ค่อยดุร้าย
นี้น่าจะจริงเป็นอย่างยิ่ง
เพราะตอนพาครอบครัวไปเยี่ยมเจ้
เจ้าของร้านค้าวัสดุรายใหญ่ที่จันดี
ที่คนรู้จักกันทั้งอำเภอทีเดียว

คำว่าเจ้ ในภาษาชาวบ้านทั่วไป
ไม่ได้หมายความถึงพี่สาวแบบคนจีนเรียกกัน
แต่หมายความว่า มีอำนาจบารมี
หรือมีเกียรติยศศักดิ์ศรีทัดเทียมผู้ชาย
ในการทำมาหากินหรือปกครองลูกน้องได้
หรือมีปากคำไหวพริบพอตัว

ยังจำได้ไปเยี่ยมวัดแห่งหนึ่งพร้อมเจ้
มรรคทายกขอเรี่ยไรเงิน
ให้ช่วยสร้างบันไดกับสะพานให้กับ
เจ้ แกตอบหน้าตาเฉยว่า
ไม่เอาเดี๋ยวเขาเหยียบย่ำกู
ทำให้ทำมาค้าไม่ขึ้นไม่เจริญ

จริง ๆ พอถามลับหลังมรรคทายก
ตอนนั่งรถยนต์ออกจากวัดพร้อมครอบครัวแล้ว
แกตอบว่าไม่จริงหรอก
ตอบไปอย่างนั้นแหละ
เดี๋ยวจะมาทำบุญภายหลัง
แต่ถ้ารับปากแล้ว เผลอ ๆ จะบานปลาย
หลายอย่างเช่น ค่าซีเมนต์ ค่ากระเบื้อง ค่าเหล็ก ค่าทราย
ไม่จบไม่สิ้นง่าย ๆ เพราะเผลอ ๆ 
มรรคทายกจะคิดว่า  
ลงบิลไว้ก่อนค่อยเบิกกับเจ้ได้
เพราะรับปากว่าจะร่วมทำบุญแล้ว
สู้ให้เป็นเงินก้อนเลยแล้วให้ทางวัดไปบริหารจัดการ
หรือไปซื้อจากร้านค้าวัสดุอื่นจะดีกว่า

ผลจากการที่ให้เจ้คนในพื้นที่
ให้พาไปเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงผึ้งแห่งหนึ่งในอำเภอ
ทำให้สะดวกในการเดินทางเยี่ยมชม
เพราะเป็นคนดังเป็นที่รู้จักกันในพื้นที่และชำนาญเส้นทาง
เมื่อเข้าเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงผึ้งแห่งหนึ่ง

เกษตรกรผู้ชายที่เลี้ยงผึ้ง
จะถือกะปุกรมควันฉีดใส่รังเลี้ยงผึ้ง



อีกภาพ


แล้วนำรวงผึ้งที่เป็นแผ่น ๆ มาให้ดูพร้อมกันหกคน
ชี้ให้ดูนางพญาผึ้งตัวอ้วนอุ้ยอ้าย
มีขนาดลำตัวใหญ่กว่าผึ้งในรังนี้อย่างเห็นได้ชัด
เห็นเดินชุ่นไปหมด(เดินวนเวียนไปทั่วรัง)
รอบ ๆ แผ่นรังผึ้งที่ต้องเป็นหกเหลี่ยมสมมาตร

ถ้ารังไหนไม่เป็นหกเหลี่ยมสมมาตร
หรือรังที่ตัวอ่อนผึ้งโตเต็มวัยออกมาแล้ว
แต่ยังไม่ทำความสะอาดให้เรียบร้อย
นางพญาผึ้งจะไม่ยอมวางไข่
พวกผึ้งงานต้องรีบแต่งรังให้ได้สมมาตรเลยทันที
หรือทำความสะอาดรังตัวอ่อนเดิมให้สะอาดทันที

เมื่อครบองค์ประกอบคือ รังสมมาตรและสะอาด
จะเห็นนางพญาผึ้งวางไข่ลงไปในหลุมรังผึ้ง
เสร็จไม่นานก็จะมีพวกผึ้งอนุบาลปิดฝาบนเลย
ยืนมุงดูกันทั้งหกคน มีผึ้งบินว่อนรอบตัว
แต่ไม่มีใครสักคนถูกต่อยด้วยผึ้งเลย
เรียกว่าอาการวันนั้น ครอบครัวผมกับเจ้
ต่างคนต่างกลัวต่างปอดแหกเหมือนกันว่า
จะถูกผึ้งต่อยเหมือนกับคำเล่าลือหรือไม่

ลุงลัภย์เล่าว่า ผึ้งรังไหนยิ่งดุ น้ำผึ้งยิ่งมาก
เพราะขยันขันแข็งหาน้ำผึ้งเก่งมาก
จะนำมาตุนหรือสำรองไว้ในรังมาก
ทำให้ขยายพันธุ์หรือปริมาณผึ้งได้มาก
แต่รังไหนไม่ค่อยดุ จะมีน้ำผึ้งน้อย
รวมทั้งตัวอ่อนจำนวนน้อยมากเช่นกัน
การตัดรวงผึ้งเพื่อเอาน้ำหวานมาใช้แต่ละครั้ง
จะทำให้ผึ้งงานต้องรีบขวนขวายออกไปหาน้ำผึ้ง
กลับมาเติมในรังผึ้งให้มากเท่าเดิม
สงสารก็สงสารผึ้งงานเช่นกัน
แต่ถ้าไม่ตัดรวงน้ำผึ้งเลยก็ไม่ได้น้ำผึ้งเช่นกัน

ขี้ผึ้งที่ทำด้วยมือที่จบลงขั้นตอนสุดท้าย
คือ ให้แสงแดดแผดเผาจนหมดน้ำผึ้งไหลย้อยหมดสิ้นแล้ว
จะนำก้อนขึ้ผึ้งนี้ไปใส่ในขันโลหะหรือหม้ออลูมีเนียมขนาดเล็ก
วางลงบนน้ำร้อนในกระทะใบใหญ่หรือหม้ออลูมีเนียมใบใหญ่
ค่อย ๆ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ
จะได้น้ำหวานปริมาณเล็กน้อยออกมาอีกรอบหนึ่ง
เอาไว้ดื่มหรือผสมกับน้ำชากาแฟได้ถ้าเคี่ยวไปเรื่อย ๆ
ส่วนขี้ผึ้งที่ละลายจะเกาะตัวเป็นแผ่น ๆ 
ส่วนเศษสิ่งที่สกปรกที่หนัก ๆ จะจมลงไปล่าง
บางส่วนก็ต้องใช้ช้อนตักออกมาทิ้งข้างนอกไป
บางส่วนก็สามารถช้อนตักขึ้นมากินได้เช่นกัน

ขี้ผึ้งที่ได้จากการนี้จะนำไปใช้ได้แพงสุดคือ
การทำแผ่นเสน่ห์นางพญาผึ้ง
แผ่นกลม ๆ ขนาดประมาณตลับยาหม่องตลับกลาง
ขายกันแผ่นละไม่น้อยกว่ายี่สิบบาท(สมัยก่อน)





ส่วนรองลงมาคือ ขี้ผึ้งไปใช้ทำเทียนไข
หรือใช้ทาถูประตูวงกบหรือลิ้นชักไม้ที่ฝืด
จะทำให้ลื่นไหลดีกว่าปกติมาก
หรือซิบกระเป๋า เสื้อผ้า กางเกง เป็นต้น
รองลงมาคือการเคลือบห่อหุ้มยาเม็ดยากลอนแผนโบราณ
ที่จะต้องบีบขี้ผึ้งออกมาก่อนจึงจะเห็นเม็ดยาข้างใน
เพราะขี้ผึ้งมีส่วนในการกันความชื่นและรักษาคุณภาพยา
รวมทั้งป้องกันมดแมลงและเชื้อราได้ดีระดับหนึ่ง

ภาพกล่องเลี้ยงผึ้งของลุงลัภย์  หนูประดิษฐ์
แกเริ่มลงมือทำใหม่เพื่อเลี้ยงผึ้งอีกครั้ง
หลังจากเลิกเลี้ยงไปหลายปีแล้ว
เพราะข้างบ้านแกมีผึ้งมาทำรังอยู่
ตอนถ่ายทำยังไม่มีผึ้งมาทำรัง











เมื่อได้ก้อนเสน่ห์นางพญาผึ้งแล้ว
จะนำก้อนเสน่ห์นางพญาผึ้งก้อนนี้
มาทาถูทาถูบนฝากล่องไม้ให้เป็นรูปวงกลม
จนขึ้ผึ้งลื่นไหลจนทาไม่เข้าอีกแล้ว
จะใช้ไฟค่อย ๆ รนให้ขี้ผึ้งซึมเข้าไปในเนื้อไม้
แล้วจัดการทาถูทาถูไปอีกรอบหนึ่ง
ทำซ้ำ ๆ กันหลายรอบจนกว่าก้อนเสน่ห์ก้อนนี้จะหมด

จากนั้นทำการปิดฝากล่องนี้ซึ่งจะอยู่ด้านบนสุด
ที่บ้านคลองหวะ หลังจากได้ก่อนเสน่ห์นางพญาผึ้ง
มาทำวิธีการดังกล่าวกับกล่องเลี้ยงผึ้ง
ระยะเวลาไม่เกินสามวันรังแรกที่ผึ้งมา
เจ้าแรกที่ผึ้งมาทำรังคือของ นายสำราญ และถัด ๆ มาของผู้ใหญ่บ้าน
ไม่เกินกว่าหนึ่งสัปดาห์ของทุกคนที่ไปเรียนและทำรังเลี้ยงผึ้ง
จะมีผึ้งมาสร้างรังใหม่ทุกคนเลยทีเดียว
ช่วงแรก ๆ ก็เลี้ยงกันในหมู่บ้านคึกคักกันดี
แต่พอนาน ๆ เข้า ต้นมะพร้าวเริ่มลดน้อยถอยลง
ระบบนิเวศน์ธรรมชาติในหาดใหญ่เสื่อมโทรมลง
เพราะบ้านจัดสรรกับเมืองรุกไล่ป่าไม้และธรรมชาติ
น้ำหวานกับเกสรดอกไม้ธรรมชาติเริ่มลดน้อยหายไป
ต้องหาน้ำตาลหรือกล้วยมาเลี้ยงผึ้งแทน
กอปรกับภาระกิจการงานมากขึ้นกว่าเดิม
คนเลี้ยงผึ้งในหมู่บ้านคลองหวะต่างเลิกราไปในที่สุด

ในกล่องเลี้ยงผึ้งที่มีกลิ่นเสน่ห์นางพญาผึ้ง
เมื่อบรรดาผึ้งงานมา survey พบกับกล่องนี้
จะได้กลิ่นอายของผึ้งอยู่ในกล่อง
เมื่อบินเข้ามาสำรวจไม่พบว่ามีผึ้งเดิมอยู่
และสภาพเหมาะสมกับการทำรังผึ้งใหม่
ทำให้มีส่วนเข้าใจผิดว่า
ผึ้งชุดเดิมย้ายรังหนีไปหากินที่ใหม่แล้ว
ฝูงผึ้ง surveyor จะรีบบินกลับไปรังเดิม
เพื่อจะไปบอกกับบรรดาพรรคพวกมิตรสหาย
และนางพญาผึ้งที่บินไม่ได้แล้ว
เพราะไร้ปีกกับอ้วนอุ้ยอ้ายมาก
เตรียมการย้ายรังมาสร้างรังใหม่

อย่างที่เล่าไว้ในปฐมบท
ถ้ารังผึ้งเิดิมมีการเตรียมนางพญาผึ้งตัวใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว
เมื่อนางพญาผึ้งตัวใหม่มีบริวารและผึ้งงานพอสมควรแล้ว
นางพญาผึ้งตัวเดิมก็จะสละรังให้เลย
เมื่อแสวงหารังใหม่ได้เรียบร้อยแล้ว
หรือบางครั้งปริมาณผึ้งในรังเดิมมีจำนวนมาก
จนเกิดการกระทบกระทั่งภายใน
หรือเริ่มลำบากในการทำมาหากิน
จะมีการบินไปขยายรังใหม่และอาณาเขตใหม่ทันที

เมื่อได้ฤกษ์พานาทีและเวลาที่เหมาะสมแล้ว
ไม่แน่ใจว่าผึ้งจะเล่นของ
หรือเชื่อถือโชคลางคาถาอาคม
เหมือนกันคนทั่ว ๆ ไปหรือไม่
เพราะประโยชน์ย่อมล่วงเลยเสียเปล่า
เพราะมัวแต่รอฤกษ์ยามอยู่ (พุทธภาษิต)

กลุ่มก้อนผึ้งที่ย้ายรังไปหาที่สร้างรังใหม่
จะมีลักษณะก้อนกลม ๆ ขนาดใหญ่
มีฝูงผึ้งบินล้อมตรงกลางและบินนำไป
เพราะห้อมล้อมและพยุงตัวนางพญาผึ้งไว้
จะบินกรูออกไปหาที่สร้างรังใหม่

ถ้าเป็นรัง/กล่องรังผึ้งที่สร้างไว้จะดีมาก
แต่ถ้าไม่มีสถานที่เหมาะสม
ผึ้งต้องใช้เวลาพอสมควรในการที่สร้างรังใหม่
เมื่อผึ้งหาสถานที่เหมาะสมในการสร้างรังใหม่ได้
และนางพญาผึ้งตกลงโอเค
ที่จะใช้สถานที่ในการสร้างรังใหม่แล้ว
จะเริ่มสร้างรังขึ้นมาใหม่
เรียกว่าไม่ต้องสั่งการเหมือนคน
หรือแบ่งแยกหน้าที่การทำงาน
หรือต้องมีหัวหน้าบริหารจัดการงานแบบคน
หรือแบบระบบราชการแบบบ้านเราว่า

โดยคำสั่งฉบับนี้ให้ผึ้งงานทั้งหลาย
เจ้าจงจัดการสร้างรังผึ้งขึ้นมาทันที
ส่วนผึ้งงานที่หาน้ำผึ้งเจ้าจงจัดการไปหาน้ำผึ้งทันที
ส่วนผึ้ง รปภ. รักษาความปลอดภัย
เจ้าจงจัดการไปเฝ้าตรงรูทางเข้าออกทันที

ปกติจะมีผึ้งเป็นนายทวารบาลอยู่สองตัว
ถ้าผิดสีผิดกลิ่นบินเข้ามา
จะถูกสองตัวนี้ไล่กัดไล่ต่อยจนต้องหนีหายไป
หรือเรียกกันว่าเอาให้ตายไปข้างหนึ่งเลย
แต่ถ้าไม่สำเร็จจะเรียกให้นำฝูงผึ้งงานชุดใหญ่มาช่วยอีกรอบหนึ่ง
เช่น มีศัดรูบุก ตัวใหญ่มาก หรือฝูงมด หรือฝูงผึ้งอีกชุดหนึ่ง เป็นต้น
ในกรณีสู้ไม่ได้หรือไม่ไหวแล้ว

ผึ้งงานจะฉีดกลิ่นหนึ่งออกมา
คือ กลิ่นเหมือนกันน้ำนมแมว
หรือกลิ่นเหมือนกับหญ้านมแมว
ผึ้งทุกตัวจะรีบจัดการดูดน้ำหวานที่หามาได้ให้มากที่สุด
ขณะที่อีกหลายตัวจะรีบห้อมล้อมนางพญาผึ้งไว้
แล้วบินกรูหนีออกไปหาที่สร้างรังใหม่ทันที
ที่เหลือทิ้งไว้คือรังผึ้งร้างมีน้ำหวานน้อยมาก
กับตัวอ่อนผึ้งบางส่วนที่เอาไปไม่ได้แล้ว

ดังนั้น คำโบราณที่บอกว่าอย่าทำให้ผึ้งตกใจ
จะถูกผึ้งรุมต่อยใส่หรือไม่ได้น้ำหวาน
จึงเป็นเรื่องจริงตามนี้
การใช้กาบมะพร้าวจุดไฟรมควัน
หรือใช้การมควันรมไปที่รังผึ้ง
จะทำให้ผึ้งมืนงงไม่ตกใจ
มีอาการสลึมเสลอเหมือนคนเมายา

ทำให้สามารถจัดการตัดน้ำผึ้งได้ตามต้องการ
เมื่อตัดช่วงรังที่ให้น้ำผึ้งเสร็จแล้ว
ส่วนที่เป็นรังตัวอ่อนของผึ้ง
ถ้าเป็นผึ้งเลี้ยงจะนำใส่รัง/กล่องเลี้ยงผึ้งแบบเดิม

ส่วนผึ้งป่าคนตัดรังผึ้งที่มีประสบการณ์และมีคุณธรรม
จะตัดเฉพาะส่วนรังของน้ำผึ้ง
เหลือตัวอ่อนไว้ให้ทำรัง
เพื่อปีต่อ ๆ ไป จะได้มีน้ำผึ่งอีกต่อไป

แต่ถ้าพวกโหด ๆ หรือชั่วร้าย
ทำลายแบบล้างผลาญ
หรือฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
จะตัดลงมาทั้งรวงเลยไม่เก็บไว้บางส่วน
เพราะจิตใจชั่วร้าย
หรือรำคาญหรือเจ็บใจที่ผึ้งต่อยเอา

ทำให้ผึ้งป่าจำนวนมากแทบสูญพันธุ์ไป
เพราะการทำลายล้างแบบนี้
บวกกับการที่มีระบบนิเวศน์ป่าไม้ถูกทำลาย
เกสรดอกไม้นานาพันธุ์มีจำนวนน้อยลงด้วยส่วนหนึ่ง

เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ ร่วมกับลุงลัภย์
ก่อนที่จะเลือนหายไปเหมืองฝูงผึ้งในป่าใหญ่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น